1. ความซื่อสัตย์
หมายถึง การประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและไม่หลอกลวง จะต้องไม่กล่าวคำทีเป็นเท็จ
มีมั่นคงอยู่ในศีลธรรม มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น มีความสุจริตทางกาย
ทางวาจา และทางใจ
2. - สุจริต
คือ ประพฤติชอบตามคลองธรรม ประพฤติด้วยตั้งใจดี
ประพฤติซื่อตรงประวัติและวิวัฒนาการ
- ซื่อตรง คือ ประพฤติตรงไม่เอนเอียง เช่น
ซื่อตรงต่อหน้าที่, ไม่คดโกง เช่น เขาเป็นคนซื่อตรง
- คุณธรรม คือ คุณงามความดีที่เป็นธรรมชาติ
ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
- อดกลั่น คือ
มีความมั่นคงหนักแน่นเหมือนแผ่นดิน ซึ่งไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะมีคนเทอะไรลงไป
ของเสีย ของหอม ของสกปรกหรือของดีงามก็ตาม
3. ประโยชน์ของความซื่อสัตย์
- การได้รับ
ความไว้วางใจ จากหัวหน้างานของคุณ
พนักงานที่มีความซื่อสัตย์ย่อมทำให้หัวหน้างานพร้อมและกล้าพอที่จะมอบหมายงานที่สำคัญหรือเป็นความลับของบริษัทให้กับคุณ
เพราะหัวหน้าไว้วางใจตัวคุณเพราะรู้ว่างานที่มอบหมายให้ไปนั้นคุณต้องทำเสร็จและข้อมูลที่คุณทำนั้นมีความถูกต้องอย่างแน่นอน
- ความน่าเชื่อถือ
ได้ของตัวคุณ คุณจะได้รับการยอมรับและการกล่าวถึงในทางที่ดีจากบุคคลรอบข้าง
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งลูกค้าของคุณเอง เช่น
ยอมรับว่าคุณมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทำงาน เนื่องจากคุณไม่เคยที่จะขาดงานหรือมาสาย
รวมทั้งข้อมูลที่คุณให้นั้นมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ
- สร้างผลงาน
( Performance) ของตัวคุณ
ความซื่อสัตย์ทำให้คุณมีโอกาสทำงานใหญ่หรือสำคัญ
ซึ่งอาจเป็นงานที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานหรือองค์การ
โดยคุณจะมีโอกาสแสดงฝีมือการทำงานของคุณและโอกาสนี้เองย่อมจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผลผลการปฏิบัติงาน ( Performance) และมูลค่าเพิ่ม
( Added Value) ของตัวคุณเอง
- รักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน/บริษัท
หากคุณมีความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงคุณไม่ได้เอาเปรียบหน่วยงานและบริษัท
เนื่องจากคุณทำงานอย่างเต็มที่ ได้ปฏิบัติตามระเบียบและรักษาทรัพย์สินของบริษัท
และรวมถึงคุณไม่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้คู่แข่งรับรู้
ซึ่งหมายถึงคุณกำลังรักษาผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานและบริษัทของคุณเอง
4. คุณค่าของความซื่อสัตย์
ความรู้จักคุณค่า ความมีเกียรติ
และความซื่อสัตย์ ซึ่งอาจจะหมายถึง จิตใต้สำนึก และพฤติกรรมนั่นเอง
จิตใต้สำนึกของคนที่มี self-esteem จะต้องรู้จักบาป บุญคุณโทษ รู้สิ่งใดดี
สิ่งใดไม่ดี ความสื่อสัตย์ ความมีเกียรติ ส่วนพฤติกรรมของ self-esteem มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา
เชื่อมั่นในความคิด และความสามารถ ของตัวเอง สามารถเลือกวิธีการตัดสินใจที่ถูกต้อง
6. การหาสาระข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตหรือดูข่าวสารทางโทรทัศน์เรื่องที่เราสนใจ
เราก็อาจนำข่าวสารที่เราได้รับหรือได้อ่านมานำไปบอกกล่าวหรือเล่าให้เพื่อนและคนรู้จักฟังโดยเล่าเหตุการณ์ที่เราได้อ่านหรือดูมาจริงๆ
ไม่มีการเสริมหรือเติมแต่งเรื่องนั้น
8. - เพลง ความซื่อสัตย์ ของ Bodyslam
เนื้อหาจะประมาณว่า
ผู้ชายยังรอคนรักเขาอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะนานแค่ไหนยังรักคนรักของเขาแค่คนเดียวและไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น
- เพลงจากนี้ไปจนนิรันดร์
ของ จิรากร
เนื้อหาจะประมาณว่า
จากเมื่อก่อนเขาไม่เคยที่จะรู้เลยว่าชีวิตของคนเรามันดียังไงแต่เมื่อมาเจอเธอคนนี้แค่ครั้งเดียว
เธอคนนี้ก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเป็นคนเฉยชาเขาก็หวั่นไหวทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เธอและเมื่อได้เธอมาอยู่เคียงข้างเขา
เขาจึงให้สัญญากับเธอคนนี้ว่า
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอก็แล้วแต่เขาจะไม่มีวันหายไป จะคอยดูแลเธอเมื่อเธอล้ม
จะคอยเป็นลมเมื่อเธอร้อนใจ
- เพลงลูกอม
ของ วัชราวลี
เนื้อเพลงจะประมาณว่า
เรายังมีกันเสมอไม่ว่าปัญหาอะไรจะเกิดขึ้นจะรักแค่เธอจะซื่อสัตย์ต่อเธอและเขาสัญญาจะดูแลเธอจากนี้ตลอดไป
9. นิทานเรื่อง
เด็กเลี้ยงแกะ
- เรื่องมีอยู่ว่า
มีเด็กคนหนึ่งทำหน้าที่ต้อนแกะออกไปกินหญ้าทุกๆ เช้า
มีอยู่วันหนึ่งเขารุ้สึกเบื่อเลยหาอะไรสนุกๆ ทำเล่นเขาจึงแกล้งตะโกนออกมาว่า “หมาป่าจะมากินแกะแล้ว”
เพื่อให้คนที่อยู่แถวนั้นวิ่งกันเขาทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง
จนมีอยู่วันหนึ่งหมาป่าได้มากินลูกแกะที่เค้าต้อนออกไปกินหญ้าจริงๆ
เขาได้ร้องตะโกนออกแต่ไม่มีใครช่วยเขาเลยเพราะทุกคนนึกว่าเด็กนั้นโกหาอีกตามเคย
เด็กคนนั้นจึงเสียลูกแกะไปทั้งฝูงและนั่งร้องไห้โดยที่ไม่มีใครช่วยเหลือ
10. - ไม่พูดคำโกหกหรือสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งที่ไม่เป็นความจริง
- ซื่อสัตย์กับการเรียน เช่น
ไม่ลอกเพื่อนเวลาสอบหรือเวลาที่อาจารย์ให้การบ้านมา
- รู้จักเสียสละ เช่น
เมื่อเราขึ้นรถเมล์เราเจอคนแก่ เราก็ควรลุกขึ้นแล้วให้คนแก่นั่ง
- ไม่ทำสิ่งที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิด เช่น
ไม่เห็นประโยชน์ส่วนอื่นมากกว่าส่วนรวม